วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

SRIRAKIJ - ศรีระกิจ และ สะรีระกิจ

เรื่องเล่าจากรุ่นสู่รุ่น

ตระกูล "ศรีระกิจ"นี้มีที่มา ซึ่งข้าพเจ้าเองก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ได้สืบเชื้อสายจากตระกูลนี้ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า นานวันไปจะหาผู้สืบทอดเรื่องราวต่อไปไม่ได้ และไม่อาจจะหาบุคคลที่อ้างเรื่องการสืบตระกูลมาได้อย่างถูกต้อง จึงมีความจำเป็นต้องรวบรวมเอาไว้ โดยบางสาแหรกตระกูลจะได้มีการรวมพวกพ้องที่เข้ามาเป็นเครือญาติกันไว้ด้วย หากท่านใดมีข้อโต้แย้งหรือมีข้อมูลที่มากกว่าข้าพเจ้า ก็ขอได้โปรดแนะนำให้มากยิ่งขึ้นต่อไป หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


เรื่องเล่าครั้งเก่าก่อน
ในอดีตเมืองบางพระเรือ ซึ่งก็คือตำบลบางพระในปัจจุบันนี้ มีความสำคัญตั้งแต่สมัยอยุธยา ปรากฎชื่อเมืองคู่กันกับ เมืองบางปลาสร้อย เมืองบางละมุง และเมืองบางพระเรือ จวบจนมาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครองหัวเมือง ราวปี 2434 เมืองบางพระ มีเจ้าเมืองที่ชื่อว่า พระยารักษาสงคราม (เส็ง) คนต่อมาชื่อว่า พระยารักษาสงคราม (พร้อม)เรื่อยมาจนมีการตั้งเป็นอำเภอ โดยมีนายอำเภอคนแรกคือ หลวงบุรัถคามบดี (เปลี่ยน นินนาทนนท์)จนต่อมาบางพระ ถูกลดบทบาทลงและกลายสภาพเป็นตำบลบางพระ ซึ่งในอดีตกำนันตำบลบางพระคนแรกก็คือ กำนันยิ้น ส่งเสริม

เรื่องเล่าคนบางพระ
หากได้สืบสาวราวเรื่องกันไปจะพบได้ว่าบางพระนั้นมีกลุ่มชนที่มาจากหลายที่คือ
1.คนดั้งเดิม ที่อาศัยมาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อนสมัยอยุธยา ด้วยหัวเมืองทางนี้ไม่เคยมีข้าศึกรบกวนไปถึง
2.คนยุคธนบุรี โดยเฉพาะในสมัยที่พระยาตากยังมิได้กู้กรุงศรีได้ กลุ่มชนที่อพยพตามกันมา มักเป็นคนกรุงเก่าเกือบทั้งสิ้น
3.กลุ่มชนที่อพยพจากเมืองสู่เมืองในพื้นถิ่นชลบุรีเอง คือการย้ายถิ่นฐานจากเมืองบางละมุงบ้าง เมืองบางปลาสร้อยบ้าง ด้วยเหตุที่ภูมิประเทศที่แห้งแล้งเป็นหลายครั้งหลายคราว เกิดโรคระบาดบ้าง เป็นต้น
4.กลุ่มชนชาวจีนเชื้อสายต่างๆ ที่อพยพเข้ามาเป็นระลอกๆ และเข้ามาโดยสำเภา กำปั่น ฯลฯ กลุ่มชนเหล่านี้เข้ามาทำการค้าขาย เป็นแรงงาน กุลี ลูกจ้าง ฯลฯ
5.คนไทยด้วยกันเอง ที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาเมื่อเกือบ 60 กว่าปีขึ้นไปที่ผ่านมา ด้วยเหตุหนีน้ำท่วมบ้าง เข้ามาทำมาหากินบ้าง
6.ฯลฯ
ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆอย่างนี้ทำให้คนที่มาอาศัยอยู่ในบางพระ จึงค่อยๆหลอมรวมกัน และกลายเป็นคนบางพระในปัจจุบันนี้


เรื่องเล่าตระกูล "ศรีระกิจ"
คนตระกูลศรีระกิจนั้นหากจะกล่าวกันไป ก็ต้องบอกว่า มีการสืบเชื้อสายกันมาหลายต่อหลายรุ่น จนมาถึงคราวตั้งนามสกุล จึงใช้นามสกุลว่า "ศรีระกิจ /สะรีระกิจ" ลองมาดูต้นตระกูลที่สามารถสืบได้ดังนี้

1.นาย ไซย + นาง แสง บุคคลทั้งสองท่านนี้คือบรรพบุรุษ ที่คนตระกูลศรีระกิจต้องจำไว้ให้ดี เพราะท่านทั้งสองคือต้นสาแหรกที่สามารถอ้างได้ว่าเป็นต้นตระกูล ท่านทั้งสองมีบุตร-ธิดา ดังนี้
1.1 นาย เบี้ยว สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.2 นาย มัง สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.3 นาย เมือง สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.4 นาย พูน สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.5 นาย เพิ่ม สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.6 นาย แส สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
1.7 นาย เที่ยง สะรีระกิจ (ศรีระกิจ)
นอกจากนี้ยังมีฝ่ายหญิงที่ไม่สามารถให้ความชัดเจนว่าเป็นลูกของท่านทั้งสองได้ก็คือ นางงิบ
ตั้งแต่ 1.1 ถึง 1.7 มีการสืบตระกูลมาดังนี้

1.1 นาย เบี้ยว สะรีระกิจ สมรสกับ นาง เป้า (สกุลเดิม "ผลมี")มีบุตร-ธิดา 10 คนดังนี้
1.1.1 นาย เปี่ยม ศรีระกิจ
1.1.2 นาง เติม หนุนดี + นาย โขน หนุนดี
1.1.3 นาย เต็ม ศรีระกิจ
1.1.4 นง ล้วน เรืองทินกร
1.1.5 นาง ลิ้น ส่งเสริม + นาย กวย ส่งเสริม
1.1.6 นาย ลุน ศรีระกิจ+นาง นุกูล ชลารักษ์
1.1.7 นาง จำรัส พันธุ์ศรี
1.1.8 นาง จำลอง ตันอำนวย
1.1.9 นาง อุไร สลิลศิริ
1.1.10นาย จรวย ศรีระกิจ

1.2 นาย มัง สะรีระกิจ สมรสกับ นาง สำลี (สกุลเดิม "ส่งเสริม") และ นาง หมุด (สกุลเดิม"ปลุกใจ"หนองมน)มีบุตร-ธิดาดังนี้
1.2.1 นาย มนูญ ศรีระกิจ+นาง บุญธรรม ยอดโฉมฉิน
1.2.2 นาย อำนวย ศรีระกิจ+นาง จิตรา
1.2.3 นาย ถนอม ศรีระกิจ
1.2.4 นาย สนั่น ศรีระกิจ
1.2.5 นาง สนาน เจริญมาก
1.2.6 นาง เขนย บุรีเทศน์
1.2.7 พระอธิการแนะ จันทาโภ ศรีระกิจ เจ้าอาวาสวัดพนมพริก ต.แสนคุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด
1.2.8 นาย นี ศรีระกิจ
1.2.9 นาย นบ ศรีระกิจ
1.2.10นาย สนิท ศรีระกิจ

1.3 นาย เมือง สะรีระกิจ ไม่มีสืบตระกูล

1.4 นาย พูน สะรีระกิจ ไม่มีสืบตระกูล

1.5 นาย เพิ่ม สะรีระกิจ สมรสกับ นาง เจือ (สกุลเดิม"โฉมงาม")มีบุตร-ธิดา 10 คนดังนี้
1.5.1 นาง จาง
1.5.2 นาง จวน
1.5.3 นาย เจียน ศรีระกิจ
1.5.4 นาย จัน ศรีระกิจ
1.5.5 นาย จีน ศรีระกิจ
1.5.6 นาง กิ๋ม เที่ยงตรง
1.5.7 นาย สะอาด ศรีระกิจ
1.5.8 นาย สำอง ศรีระกิจ
1.5.9 นาง สำอาง จันทร์เกลี้ยง
1.5.10นาย สำออย ศรีระกิจ

1.6 นาย แส สะรีระกิจ สมรสกับ นาง มิน มีบุตร-ธิดาดังนี้
1.6.1 นาย เขียว
1.6.2 นาย ขาว
1.6.3 นาง เหล้ก
1.6.4 นาง ปิ่น
1.6.5 นาง สม

1.7 นาย เที่ยง สะรีระกิจ สมรสกับ นาง หล่ำ มีบตร-ธิดาดังนี้
1.7.1 นาง พอง
1.7.2 นาง ตุ๊
1.7.3 นาย หมู
1.7.4 นาง ลัน
1.7.5 นาง ลัก
บุคคลต่างๆที่ข้าพเจ้าเอ่ยนามมานี้
ชั้นที่ 1 คือต้นตระกูล
ชั้นที่ 2 เป็นชั้นลูก มีผู้สืบสกุลลงมา 5 ท่าน
ชั้นที่ 3 เป็นชั้นหลาน มีผู้สืบสกุลลงมา 40 ท่าน
หากนับขึ้นไปแล้ว คนชั้นที่ 3 จะมีศักดิ์เป็น ปู่-ย่า ของข้าพเจ้า คนชั้นที่ 2 จะเป็นรุ่น ทวด ของข้าพเจ้า และคนชั้นที่ 1 จะเป็นรุ่นปู่ทวดของข้าพเจ้า ฉะนั้นหากท่านใดที่ได้เรียกบุคคลต่างๆเสมอกับข้าพเจ้า แสดงว่าท่านเป็นคนชั้นที่ 5 เหมือนกับข้าพเจ้านั่นเอง

ศรีระกิจ / สะรีระกิจ ต่างกันตรงใหน?
มีคนเคยเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า นามสกุลดั้งเดิมของเราคือ ศรีระกิจ แล้วในสมัยจอมพล ป. มีคำสั่งให้นามสกุลเป็นแบบไทยๆจึงกลายเป็น สะรีระกิจ ต่อมาจึงเปลี่ยนกลับมาเป็น ศรีระกิจ ดังเดิม แต่บางท่านก็เล่ากลับกันไปว่า เดิมคือ สะรีระกิจ แล้วมาเปลี่ยนเป็น ศรีระกิจ แต่ถ้าหากเราลองไปค้นหนังสือ สมุดเก่าๆ ก็จะพบว่าเขียนเป็น สะรีระกิจ มาโดยตลอด ส่วน ศรีระกิจ นั้นเพิ่งจะมาพบหลังปี 2500 เป็นต้นมานั่นเอง

คน "ศรีระกิจ" มาจากใหน?
ตอบได้เลยว่า ก็เป็นคนทั่วๆไปนั่นแหละ ไม่ได้มีเทือกเถาเหล่ากอสูงไปมากกว่าเท่าใด เป็นตระกูลที่ทำมาหากินมาแต่เดิม ซึ่ง ท่าน ไซย ต้นตระกูลเกิดจากคนดั้งเดิม+คนกรุงเก่า+คนเชื้อสายจีน+คนเชื้อสายต่างๆ มารวมกัน ในที่นี้อาจมีคนแย้งว่าแล้วทำไมที่บรรจุอัฐิของตระกูลทำเป็นรูปเก๋งจีน ตอบได้ว่าเพราะเรามีเชื้อสายจีนอยู่ด้วยและค่อนข้างจะมากด้วยซ้ำ อิทธิพลศิลปะแบบจีนจึงเป็นต้นแบบของการทำที่บรรจุอัฐิเป็นเช่นนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นให้สังเกตุให้ดีว่า แล้วทำไมเมื่อเป็นจีนแล้วไยจึงไม่นำร่างผู้วายชนม์ไปฝัง ทั้งๆที่สมัยนั้นเขาก็นิยมฝังกัน นั่นเป็นเพราะคนชั้นที่ 2 แลเห็นว่าการเป็นจีนของท่านนั้นน้อยมาก เป็นแค่เสี้ยวๆหนึ่ง จึงใช้วัฒนธรรมแบบไทยๆคือการเผาแล้วเก็บอัฐิไว้เฉกเช่นคนไทยทำๆกัน

เรื่องเล่าเก่าๆที่มีหลักฐานยืนยันไม่มาก และที่มีหลักฐานกล่าวถึง
สืบเนื่องมาจากมีเรื่องเล่าเก่าๆเล่าแบบปากต่อปากกันมาว่า บรรพบุรุษก่อนท่านไซย นั้น ยังมีที่อาจอ้างถึงได้อีกก็คือ
ชวดเถียร ท่านผู้นี้คนชั้นที่ 2 เรียกท่านว่าชวดหรือทวด กล่าวคือมีศักดิ์เป็นพ่อของปู่อีกทีหนึ่ง นั่นหมายความว่าเรายังสืบขึ้นต่อไปได้อีกคือ พ่อของท่านไซย คือ ท่านเส็ง หรือเสม ,พ่อของท่านเส็ง คือ นายเถียร หรือ เสถียร ,พ่อของนายเถียร คือ นายบัว ,พ่อของนายบัว คือ นายสระ นี่คือเรื่องเล่าสืบกันมา สามารถเรียงลงมาได้ดังนี้
1.นาย สระ
2.นาย บัว
3.นาย เสถียร
4.นาย เสม
5.นาย ไซย
6.นาย เบี้ยว,มัง,เมือง,พูน,เพิ่ม,แส,เที่ยง
7.นาย เปี่ยม,นาง เติม,นาย เต็ม,นาง ล้วน ,นาง ลิ้น ,นาย ลุน ,นาง หลัด,นาง ลอง ,นาง ไร,นายจรวย
นาย มนูญ,นาย อำนวย,นาย ถนอม,นาย สนั่น,นาง สนาน,นาง เขนย,พระแนะ,นาย นี,นาย นบ,นาย สนิท
นาง จาง,นาง จวน,นาย เจียน,นาย จัน,นาย จีน,นาง กิ๋ม,นาย อาด,นาย อง,นาง อาง,นาย ออย
นาย เขียว,นาย ขาว,นาง เหล้ก,นาง ปิ่น,นาง สม
นาง พอง,นาง ต๊,นาย หมู,นาง ลัน,นาง ลัก
8.รุ่น ป้า ลุง พ่อ อา ของข้าพเจ้า เช่น ป้าฮง ป้าฮอก(ลูกก๋งเฮง เรืองทินกรกับย่าล้วน ศรีระกิจ) หลวงลุงสมมุติ ติกขวีโร วัดบางพระวรวิหาร และป้ากิว(ลูกก๋งกวย ส่งเสริมกับย่าลิ้น ศรีระกิจ) ลุงตวน(ลูกก๋งเต็ม,เป็นพ่อของพี่เก่ง สามารถ ศรีระกิจ) ฯลฯ
9.รุ่นของข้าพเจ้าและบรรดาพี่ๆน้องๆทั้งหลาย
10.รุ่นลูกของข้าพเจ้าและบรรดาลูกๆของพี่ๆน้องๆที่เป็นวงศาคณาญาติกัน โดยที่ข้าพเจ้ามีศักดิ์เป็นลุงหรืออาหรือน้าตามฐานะ
11.รุ่นหลานๆของข้าพเจ้าโดยข้าพเจ้ามีศักดิ์เป็นปู่หรือตาตามธรรมเนียม

แทรกเสริมเรื่องของผู้บันทึก
ถ้านับจากท่านสระลงมาข้าพเจ้าเป็นคนชั้นที่ 9 ของรุ่น/ ถ้าหากนับจากท่านไซยลงมาข้าพเจ้าเป็นคนชั้นที่ 5 ของรุ่น
การสืบเชื้อสายของข้าพเจ้าเป็นดังนี้
1.ท่านไซย+ท่านแสง
2.ทวดมัง สะรีระกิจ+ทวดสำลี ส่งเสริม
3.ปู่มนูญ ศรีระกิจ+ย่าบุญธรรม ยอดโฉมฉิน
4.พ่อชาตรี ศรีระกิจ+แม่สมใจ เจริญสุข
5.ข้าพเจ้า

ในที่นี้ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องของคุณทวดเล็กน้อย
ทวดมัง สะรีระกิจ เกิดปี 2434 มีภรรยาคือ ทวดสำลี ส่งเสริม
ทวดมังท่านเป็นคนรูปร่างสูงบาง ท่านมีนิสัยทะมัดทะแมงใจนักเลง ชอบการสวดฆราวาสฌานังตามงานศพ
ท่านมีความชำนาญด้านเล่นแร่แปรธาตุจนสามารถผลิตเหรียญสตางค์ไว้ใช้สอยได้ (ไม่เคยถูกจับได้เลย)
ส่วนคุณทวดหญิงสำลี เป็นบุตรีของ กำนันยิ้นและนางไกร ส่งเสริม(มีฝาแฝดคือ นาง กึก)
คุณทวดสำลีก่อนจะมาสมรสกับทวดมัง ได้เคยแต่งงานมาแล้วกับนายเกี๊ยะ เป็นคนอำเภอพานทอง
ครั้งเมื่อนายเกี๊ยะมาเป็นทหารเรือที่บางพระจึงได้สมรสกับทวดสำลี มีบุตร-ธิดาคือ นาง ช่วย และ นาย ชวน ส่งเสริม
ทั้งสองท่านได้ใช้นามสกุลฝ่ายมารดา เพราะนายเกี๊ยะผู้บิดา ป่วยเป้นท้องร่วงและเสียชีวิต
ปัจจุบันนี้ทั้งสองท่านมีบุตร-ธิดาสืบต่อมา โดยคุณย่าช่วยมีบุตรสาวเป็นรองนางสาวไทย ส่วนคุณปู่ชวน มีบุตรหลายคน
เช่น หมอชาญ-พระบุญชาญ ปัณฑิโต มรณภาพแล้ว เป็นต้น

ในที่นี้ข้าพเจ้าขอเล่าเรื่องของปู่ย่าเล็กน้อย
ปู่มนูญ ศรีระกิจ เกิดวันจันทร์ เดือนกุมภาพันธ์ ปี2460 เสียชีวิตเมื่อปี 2525
ย่าบุญธรรม ท่านเกิดเดือนตุลาคม 2462 เป็นบุตรีของ นาย ไข่ นาง เปลื้อง ยอดโฉมฉิน
บรรพชนเดิมท่านเป็นคนนครชัยศรี เชื้อสายมอญ+แขก+ไทย ท่านมีพี่น้องคือ พระสังวาลย์ วัดไทร ,นาง สังวรหรือบุญถึง บ้านอยู่อำเภอปลวกแดง ระยอง ,ตัวท่านเองและน้องชายท่านคือ นาย สำรวย ยอดโฉมฉิน บ้านอยู่แสมขาว สมุทรปราการ
ทั้งนี้นายไข่เป็นครูเพลงที่มีชื่อแต่มาตายเสียแต่ยังหนุ่ม ส่วนนางเปลื้องเป็นบุตรีของนางใหญ่กับนายขำ และนางใหญ่เป็นบุตรีของนางปาน ซึ่งย่าบุญธรรมเคยเล่าให้ฟังว่าทวดปานของท่าน ต้องมาตายเพราะท่านไกวเปลน้องแรงจนไปโดนทวดปานตกเรือนตาย
สำหรับปู่มนูญมีภรรยาคือคุณย่าบุญธรรม ยอดโฉมฉิน และหญิงอีกท่านหนึ่งไม่ทราบชื่ออยู่บ้านท้ายบ้าน
ปู่มนูญมีบุตรกับคุณย่าบุญธรรม 10 ท่านได้แก่
1.ดช.จักรพล ศรีระกิจ เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด
2.นาย รณชัย ศรีระกิจ+นาง นกน้อย
3.นาย สุขุม ศรีระกิจ+นาง แหม่ม
4.นาง สยุมพร พึ่งทองหล่อ
5.นาย อุทัย ศรีระกิจ
6.นาย ชาตรี ศรีระกิจ+นาง สมใจ+นาง จันทร์ทอง
7.ดญ.มณี ศรีระกิจ เสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด
8.นาง ทิวา สินภูธรณ์
9.นาย สอ ศรีระกิจ
10.นาง สปันนา มัชฌิโม

เรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ข้าพเจ้าได้บันทึกไว้เผื่อลืมเลือน และขอมอบไว้เป็นหลักฐานสืบไปเบื้องหน้า หากมีผู้ใดสนในเรื่องราวของตัวตนก็จะได้สืบเสาะโดยมิต้องลำบาก เพราะนานวันไปคนรุ่นเก่าๆก็จะมีแต่ล้มหายตายจากกันไป จะไปถามอะไรจากใครที่ใหนได้ ส่วนวันข้างหน้าคนนามสกุลเดียวกันมาเจอกันจะมาอ้างว่ามิใช่วงศาคณาญาติก็มิได้ เพราะนี่คือหลักฐานที่สามารถอ้างได้ว่าเรามีที่มาเหมือนกัน การที่จะมาทะเลาะกัน ชิงดีชิงเด่นกัน ย่อมมิใช่วิสัยที่จะพึงกระทำ ขอฝากเอาไว้เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจด้วยครับ

kornsiam srirakij
กรสยาม (เกรียงไกร) ศรีระกิจ
12/11/2555

12 ความคิดเห็น:

  1. ข้าพเจ้าเป็นหลานตาของตาลุน ศรีระกิจ เปลี่ยนชื่อให้ไพเราะขึ้นเป็นจรูญ และหลานย่าของคุณย่าจำรัส คุณตาเสียชีวิตที่สัตหีบตั้งแต่แม่ยังเด็ก ตาย้ายมาตั้งรกรากที่สัตหีบ เมื่อประมาณ 70ปีก่อน ข้าพเจ้ามีแม่ชื่อลัดดา(ต้อย) ศรีระกิจ คุณยายเป็นคนหนองมน ชื่อคุณยายสอ(นุกูล ชลารักษ์)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยินดีที่ได้รู้จักครับ มีอะไรบอกกล่าวกันนะครับ 085-1109393 083-1203162

      ลบ
  2. ไม่มี นายเเวน ศรีระกิจ หรอคับ
    มีลูกที่ใช้นามสกุลนี้อีกคือลูกคนสุดท้องคือ นวพร ศรีระกิจ อยากทราบว่า ลองค้นหาได้ไหมค่ะ ตอนนี้เค้ายุ สระเเก้วอะค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรารู้จักนวพร ศรีระกิจค่ะ ยังไงลองติดต่อกลับมาทีนะคะ ไม่รู้ว่าคนเดียวกันรึป่าว 0922079393

      ลบ
    2. นาย แวน อายุประมาณเท่าไหร่ครับ
      โทรหาผมได้นะครับ 0851109391
      ผมจะได้จัดลำดับทำเนียบตระกูล

      ลบ
  3. หนูเป็นหลานของปู่ จีน ศรีระกิจ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และดีใจที่มีคนเขียนเรื่องราวของตระกูลเรา คือหนูหาชื่อตระกูลเราใน google เพื่ออยากทราบว่าตระกูลเราใช้แซ่ภาษาจีนว่าอะไร แล้วก็ก็มาเจอเว็บนี้ที่พี่เขียน ได้อ่านแล้วรู้สึกขอบคุณพี่นะคะที่เขียนไว้ให้คนรุ่นหลังอ่าน :)

    ตอบลบ
  4. ดิฉันเป็นหลานของ ปู่จีน ศรีระกิจ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และดีใจที่ได้มีคนเขียนประวัติความเป็นมาของตระกูลเรา แต่ที่หนูอยากรู้ อยากรู้ว่าตระกูลเรามาแซ่ภาษาจีนมั๊ยคะ ถ้ามีใช้แซ่อะไร

    ตอบลบ
  5. ดิฉันเป็นหลานของ ปู่จีน ศรีระกิจ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ และดีใจที่ได้มีคนเขียนประวัติความเป็นมาของตระกูลเรา แต่ที่หนูอยากรู้ อยากรู้ว่าตระกูลเรามาแซ่ภาษาจีนมั๊ยคะ ถ้ามีใช้แซ่อะไร

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ซีคง เป็นตระกูลครูบาอาจารย์ สอนหนังสือประมาณนี้ครับ

      ลบ
  6. ท่านใดสนใจประวัติตระกูลโทรสอบถามได้ที่ 0851109391 ครับ

    ตอบลบ
  7. เราชื่อ อลิษา ศรีระกิจเป็นลุกสาวของพ่อจุมพล ศรีระกิจ แต่เราไม่ทราบชื่อปุ่ย่าเพราะแม่ของเราเลิกลากับพ่อตั้งแต่เราเด็กๆๆเราและพี่ชายย้ายมาอยุ่ลำปางตั้งแต่อายุ4ปี

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ17 ธันวาคม 2566 เวลา 13:06

    ผมชื่อ ปิยเดช ศรีระกิจ เป็นบุตรนาย สุขุม ศรีระกิจ ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับ

    ตอบลบ